10 เทรนด์เทคโนโลยีกับ สวทช.

                                                                                  คอลัมน์ : บัวหลวง Money Tips
                                                                                  ทนง ขันทอง กองทุนบัวหลวง
                                                                                  นสพ.ผู้จัดการ, 6 ตุลาคม 2560, น.6

 

          สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ช่วยนักลงทุนทำความเข้าใจทิศทางและแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเลือกพิจารณาลงทุนให้เหมาะสม เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้อาจจะเข้าไปเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจหลายประเภทที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ทุกปี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติหรือ สวทช. จะเปิดเผยข้อมูล 10 เทรนด์เทคโนโลยี ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบเบื้องต้นในอีก 5-10 ปีข้างหน้า บางชนิดอาจได้เป็นผลิตภัณฑ์ บางชนิดอาจได้แค่ต้นแบบ หรือเป็นการทดสอบเบื้องต้นใน
ผู้ป่วย”

           นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเผย 10 เทนรด์ ได้แก่

           1. สารเสริมสุขภาพเนรมิตได้ (Phytonutrients) ปัจจุบันสามารถนำผักผลไม้มาสกัดเอาสารสำคัญ และทำให้อยู่ในรูปลักษณะที่ชวนบริโภค ไม่ว่าจะเป็น แคปซูล ผง แท่ง หรือละลายน้ำ ผลิตภัณฑ์ที่มีสารมีประโยชน์จากพืชออกสู่ตลาดเพิ่มมากในแต่ละปี เรียกสารดังกล่าวรวมๆ ว่า Phytonutrients หรือ Phytochemicals ซึ่งจัดว่าอยู่ในกลุ่มของอาหารเสริมเพื่อสุขภาพหรือฟังก์ชันฟู้ด


           2. เนื้อสัตว์ไม่ต้องฆ่า (Cellular Agriculture) เนเธอร์แลนด์ทดลองนำเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อวัวที่ได้จากการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการมาทำเป็นแฮมเบอร์เกอร์ แนวคิดการผลิตเนื้อสัตว์จากเซลล์แบบนี้ มาจากความต้องการผลิตเนื้อสัตว์แบบยั่งยืน ดีต่อโลก โดยใช้เทคโนโลยีเพาะเลี้ยงเซลล์และเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีนี้มีข้อดีคือ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
ราว 14.5% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด เป็นต้น


           3. จุลินทรีย์ผลิตสารมูลค่าสูงจากอากาศ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา ผลิตแบคทีเรีย 2 ชนิดคือ ซินนีโคค็อกคัส
ที่สังเคราะห์แสงโดยตรึงคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ แล้วเปลี่ยนให้เป็นน้ำตาล ก่อนส่งต่อให้แบคทีเรียชีวาเนลลาเปลี่ยนให้เป็น
กรดไขมัน สามารถนำไปใช้ผลิต “คีโตน” ซึ่งเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำคัญของสารประกอบอินทรีย์อื่นๆ และน้ำมันดีเซล


           4. บรรจุภัณฑ์กินได้ ผลิตจากผลผลิตทางการเกษตร เพื่อใช้ห่อหุ้มอาหารไม่ให้เกิดความเสียหาย ยืดอายุการเก็บรักษา
คงคุณค่าทางสารอาหารและสามารถรับประทานอาหารชนิดนั้นๆ พร้อมกับส่วนที่ห่อหุ้มอยู่ได้เลย โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ปัจจุบันมีงานวิจัยและเริ่มทดลองใช้ในหลายประเทศ


           5. ถุงปลูกเพิ่มผลผลิต หากเอ่ยถึงนอนวูฟเวนส์ (nonwovens) หรือ “ผ้าไม่ถักไม่ทอ” อาจไม่เป็นที่รู้จัก แต่ตัวอย่างที่
คุ้นเคยและพบได้แพร่หลาย คือ หน้ากากอนามัย เนื้อวัสดุมีลักษณะคล้ายกระดาษ แต่ให้สัมผัสนุ่มคล้ายผ้า ผลิตภัณฑ์แบบนี้อาศัย
การขึ้นรูปจากเส้นใยโดยตรง ทั้งนี้ นักวิจัยจากศูนย์เอ็มเทค สวทช. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยนเรศวร วิจัยถุงปลูกนอนวูฟเวน โดยมี
เป้าหมาย
เพื่อเพิ่มคุณภาพและปริมาณผลิตผลทางการเกษตรสุขภาพ-การแพทย์เฉพาะบุคคล


           6. หุ่นยนต์หมอนาโน จากปัญหาตัวยารักษามะเร็งขาดความจำเพาะ จึงทำลายเซลล์มะเร็งเป้าหมายได้แค่ 1–2%
ที่เหลือกลับทำลายเซลล์ดี ทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา ทีมวิจัยที่ศึกษานำทีเซลล์มาใช้เป็นนาโนโรบอทนำส่งยาฆ่าเซลล์มะเร็ง
ได้อย่างจำเพาะ หรืออาจใช้นำส่งอนุภาคนาโนบางอย่าง ที่เมื่อกระตุ้นด้วยรังสีจะทำให้เซลล์มะเร็งตาย โดยไม่กระทบต่อเซลล์
ปกติข้างเคียง


           7. เข็มจิ๋วจิ้มไม่เจ็บ (Nano Needle) เข็มขนาดเล็กมากๆ มีเส้นผ่านศูนย์กลางระดับไมโครและนาโนเมตร พัฒนาโดยสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย แล้วใช้ทดสอบประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับอาสาสมัคร ขณะนี้มีงานวิจัยเพื่อสร้างเข็มจิ๋ว
ที่เหมาะกับการฉีดยาหรือวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และการฉีดอินซูลินสำหรับผู้เบาหวานอีกด้วย


           8. บล็อกเชนเพื่อสุขภาพ คือ เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลธุรกรรม ที่ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องสามารถเก็บข้อมูลและใช้
การเข้ารหัส หรือ คริปโตกราฟี (cryptography) เพื่อป้องกันการแอบแก้ไขข้อมูล และกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ระบบมี
ความน่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้คนทำหน้าที่บริหารจัดการข้อมูล ปลอดภัยจากการแอบแก้ไขและแอบเข้าถึงข้อมูลตัวอย่างเช่น Block M.D. บริษัทสตาร์ทอัพกำลังพัฒนา Electronic Health Record หรือ EHR บนบล็อกเชน โดยใช้โครงสร้างเวชระเบียน
หรือประวัติผู้ป่วยมาตรฐาน ในปัจจุบันนั่นเอง


           9. โรงยิมสมอง สมองเป็นอวัยวะที่มีความซับซ้อนมาก ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นับแสนนับล้านเครื่อง เพื่อจำลอง
การทำงานของสมองเพียงเสี้ยววินาที แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเซนเซอร์ที่นำมาศึกษาสมองได้ดี เช่น เทคโนโลยีสร้างภาพประสาท (Neuroimaging) ที่อาจเคยเห็นเครื่องมือพวกนี้ในโรงพยาบาลม เช่น เครื่องสแกนเอ็มไอร์ไอ หรือ อีอีจี มีเซนเซอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้
อ่านข้อมูลสมองได้สะดวกและเรายังมีเทคนิคการวิเคราะห์ บิ๊กดาต้า ทำให้สามารถอ่านข้อมูลสมองได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นศาสตร์ใหม่
ที่เรียกรวมว่าเป็น นิวโรอินฟอร์เมติกส์


           10. พิมพ์ฟังก์ชัน 3 มิติ (Functional 3D Printing) ข้อมูลจาก IDTechEx ระบุว่า ตลาดวัสดุสำหรับการพิมพ์สามมิติคาดว่าจะเติบโตและมีมูลค่าตลาดทั่วโลกสูง 7 แสนล้านบาทในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ในอนาคตอันใกล้ วัสดุใหม่ๆ เช่น
วัสดุคอมพอสิต จะช่วยให้สามารถพิมพ์วัสดุที่มีคุณสมบัติเฉพาะต่างๆ ได้หลากหลายขึ้น ทำให้สร้างอุปกรณ์ที่ทำงานได้ทันทีหลัง
พิมพ์เสร็จ เช่น การพิมพ์พลาสติกนำความร้อน เพราะมีวัสดุโลหะผสมอยู่ เช่น วัสดุผสมคอมพอสิตกับอนุภาคหรือเส้นใยของทองแดง หรืออะลูมิเนียม สามารถนำไปใช้ทดแทนชิ้นส่วนโลหะได้ เช่น ชิ้นส่วนโคมไฟรถยนต์ หรือใช้ระบายความร้อนในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันศูนย์นวัตกรรมการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทรอนิกส์อินทรีย์ หรือ TOPIC ในสังกัดเนคเทค สวทช.
ร่วมมือกับบริษัท เฮเดล เทคโนโลยี ประเทศไทย ผลิตเส้นลวดพลาสติกนำไฟฟ้าด้วยวัสดุคอมพอสิตผสมกราฟีน ที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดีที่สุดในโลก มีความต้านทานไฟฟ้าน้อยกว่า 0.5 โอห์มต่อเซนติเมตร สามารถขึ้นรูปได้ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติทุกชนิด และ
ออกวางจำหน่ายไปทั่วโลกแล้ว

          นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. ให้ความสนใจเป็นพิเศษในเทคโนโลยีด้านอาหารและการแพทย์ ที่บังเอิญสอดคล้องกับเมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) นอกจากจะต้องพัฒนาด้านคุณภาพ ความปลอดภัยและอาหารจำเพาะบุคคล
ที่เคยพูดถึงในปีก่อนๆ แต่ในปีนี้จะพูดถึงเทคโนโลยีแก้ปัญหาโลกร้อนไปพร้อมๆ กับปัญหาขาดแคลนเนื้อสัตว์ ขยะบรรจุภัณฑ์จำพวกพลาสติกย่อยสลายยากที่กำลังล้นโลก ทั้งยังมีปัญหาสารอาหารที่ดีมีประโยชน์แต่หากินยาก หรือมีรูปลักษณ์ กลิ่น หรือสัมผัส
ไม่น่ากิน ขณะที่เทคโนโลยีด้านการแพทย์นั้น จะพบปัญหาการเข้าไม่ถึงข้อมูลการแพทย์ส่วนบุคคล การป้องกันความเป็นส่วนตัว
ไปจนถึงปัญหาใหญ่อย่างการถดถอยของระบบประสาทและความจำในผู้สูงอายุ


          อย่างไรก็ตาม 10 เทคโนโลยีที่ควรจับตามองในปีนี้ ส่วนใหญ่ครอบคลุมเรื่องอาหาร สุขภาพ และการแพทย์ โดยมี
เรื่องของเทคโนโลยีการพิมพ์และการเกษตรเข้ามามีบทบาทด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนในการทำความเข้าใจทิศทางและแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเลือกพิจารณาลงทุนให้เหมาะสม เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้อาจจะเข้าไปเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจหลายประเภทที่เห็นอยู่ในปัจจุบันข้อมูลเหล่านี้ยังสำคัญสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อให้ทันรับมือกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะเทคโนโลยีใกล้ชิดกับเราอย่างมากโดยคาดไม่ถึงในทุกมิติของชีวิต

Visitors: 207,675